เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดตั้งโรงเรียนสอนนักบริบาล ร่วมกับโรงเรียนด็อกเตอร์หนึ่งอินเตอร์แคร์ กระบี่ ผ่านระบบออนไลน์ เพื่อสนับสนุนเยาวชนให้มีความรู้และศักยภาพในการทำอาชีพนักบริบาล ทั้งภาคทฤษฎีและการปฏิบัติ รวมถึงทำกิจกรรมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน รวมถึงโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ในด้านต่างๆ
ดร.พิชญ์สินี ขาวล้วน หรือดร.หนึ่ง กล่าวว่า สำหรับโรงเรียนด็อกเตอร์หนึ่งอินเตอร์แคร์ กระบี่ จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือนักศึกษาที่มีใจรักในงานบริการด้านการพยาบาล การแพทย์ ด้านสุขภาพให้มีงานทำมีรายได้ ช่วยเหลือครอบครัวและสามารถหารายได้เพื่อส่งตนเองเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น จึงได้ร่วมมือกับ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน จัดเป็นศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน “สาขาการดูแลผู้สูงอายุ” รวมทั้งยังได้ทำความร่วมมือ กับสถาบันการศึกษา โรงพยาบาล และสถานประกอบอีกหลายแห่ง เช่น มหาวิทยาลัยเกริก ในการศึกษาต่อยอดในระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมูฮัมมาดิยะห์ ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ด้านวิชาการ
โดยเปิดรับนักเรียนปีละ 4 รุ่น ได้แก่ รุ่นที่ 1 เดือนมกราคม รุ่นที่ 2 เดือนเมษายน รุ่นที่ 3 เดือนกรกฎาคม และรุ่นที่ 4 เดือนตุลาคม โดยมีหลักสูตร 6 เดือน หรือ 840 ชั่วโมง แบ่งเป็นภาคทฤษฎี 3 เดือน หรือ 420 ชั่วโมง ภาคปฏิบัติ 3 เดือน หรือ 420 ชั่วโมง สอนโดยทีมแพทย์ พยาบาลวิชาชีพ นักเทคนิคการแพทย์ นักกายภาพบำบัด และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ เพื่อรองรับการทำงานทั้งในโรงเพยาบาลภาครัฐและภาคเอกชน ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ สถานประกอบการด้านสุขภาพ
ดร.หนึ่ง กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังมีทุนการศึกษา โดยการคัดเลือกจากการสัมภาษณ์นักเรียนและผู้ปกครองถึงความจำเป็นในการใช้กองทุน โดยได้รับความร่วมมือจากธนาคารวากัฟ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศมาเลเซีย ให้ทุนการศึกษาแบบยืมเรียน ไม่มีดอกเบี้ย เมื่อน้องทำงานแล้วก็สามารถทยอยคืนทุน ภายในระยะเวลา 2 ปี เพื่อหมุนเวียนทุนไปใช้กับนักเรียนต่อไป โดยทุนดังกล่าวฯ จะนำมาจัดสรรค์ดูแลความเป็นอยู่ในทุกด้าน อาทิ หอพัก อาหาร เบี้ยเลี้ยง อุปกรณ์การเรียนทั้งหมด รวมถึงจัดหาที่ฝึกงาน และที่ทำงานให้ โดยได้ทำความร่วมมือกับโรงพยาบาลต่างๆ อาทิ โรงพยาบาลสินแพทย์ โรงพยาบาลเสรีรักษ์ นั่นหมายความว่านักเรียนทุกคนจะสามารถมีงานทำ 100%
ทั้งนี้ จากความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้สูงอายุ จึงมีความพร้อมที่จะเปิดศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ชื่อ “ศูนย์ดอกเตอร์อินเตอร์แคร์” โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นศูนย์ฝึกให้น้อง ๆ ก่อนจะออกไปฝึกงานจริงที่ศูนย์ต่างๆ ซึ่งน้องก็จะได้ฝึกดูแลผู้สูงอายุจริง โดยมีพี่เลี้ยงซึ่งเป็นรุ่นพี่ หรือเป็นนักบริบาลที่บรรจุแล้วคอยฝึกสอน ทำให้น้องนักเรียนมีความชำนาญและเชี่ยวชาญมากขึ้น
ทางด้าน คุณอภัยชนม์ วัชรสินธุ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสด้านประสานกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า สำหรับมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ได้ดำเนินโครงการพัฒนาอาชีพด้านการบริบาล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เยาวชนที่ด้อยโอกาส ได้มีการศึกษา เพื่อสร้างความรู้ในการประกอบอาชีพดูแลผู้สูงอายุได้อย่างถูกต้อง และมีทัศนะคติที่ดีต่ออาชีพด้านการบริบาล
โดยการดำเนินงานของโครงการ จะได้รับความร่วมมือกับโรงเรียนด้านการบริบาลต่างๆ อาทิ โรงเรียนเป็นเลิศการบริบาล วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ โรงเรียนอนันตรักษ์การบริบาล ในการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการบริบาล ตามหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ 420 ชั่วโมง ตลอดจนสนับสนุนคำแนะนำเชิงวิชาการ โดยมูลนิธิฯ ได้ร่วมคัดเลือกเยาวชน พร้อมสนับสนุนงบประมาณ และติดตามดูแลผู้เข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้มูลนิธิฯ ยังมีเป้าหมายสำคัญ คือ จัดทำ “ศูนย์เรียนรู้สุขภาพชุมชน” จากแนวคิดที่ต่อยอดให้เยาวชนสามารถนำความรู้ด้านบริบาลกลับไปดูแลคนในชุมชน ตลอดจนถ่ายทอดองค์ความรู้ให้ชุมชน ให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและสามารถช่วยเหลือตนเองได้
คุณสุปรี เบ้าสิงห์สวย กรรมการและผู้ช่วยเลขาธิการ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท กล่าวว่า การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระหว่างมูลนิธิฯ และโรงเรียนด็อกเตอร์หนึ่งอินเตอร์แคร์ กระบี่ ในครั้งนี้นั้น นอกจากเป็นการแชร์ข้อมูล ความรู้ และเทคนิคต่างๆ ในการดำเนินงานสร้างนักบริบาลเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุแล้ว ยังสามารถนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนโครงการของมูลนิธิฯ ให้เป็นไปในทิศทางที่เหมาะสมและตอบโจทย์สังคม รวมถึงสามารถประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ได้
โดยหลังจากนี้ มูลนิธิฯ จะประสานงานกับโรงเรียนต่างๆ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในทุกๆด้านของการสร้างนักบริบาล ทั้งหลักสูตรการเรียน ตลอดจนแนวทางการต่อยอดอาชีพให้นักบริบาลรุ่นใหม่ต่อไป
######